การที่จะเลือกสีนั้นมีกันมาตั้งแต่สมัยแต่ก่อน สีที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกส่งผลต่อความคิดและสติ หากเราเลือกสีถูกโฉลกกับตัวเรา สีก็จะช่วยส่งเสริมให้เรามีพัฒนาการได้ดีขึ้น ihome108 ก็เลยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการที่จะเลือกใช้สีภายในห้องนอนมาฝากเพื่อน ๆ ซึ่งมีทั้งการเลือกสีห้องนอนจากฮวงจุ้ยและเลือกตามวันเกิด ซึ่งเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาว่าจะใช้สีนั้นในห้องนอนของตนเองก็ลองศึกษาดูได้ ทาวน์เฮ้าส์ การที่จะเลือกสีของห้องนอนให้มันตรงตามฮวงจุ้ยสีตามปีนักษัตรทั้ง 12 ปี 1. ปีชวด (ปีหนู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ 2.ปีฉลู (ปีวัว) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล 3. ปีขาล (ปีเสือ) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีฟ้า สีเทา สีดำ สีเขียว และสีเหลืองอมเขียว 4.ปีเถาะ (ปีกระต่าย) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีฟ้า สีเทา สีดำ สีเขียว และสีเหลืองอมเขียว 5.ปีมะโรง (ปีมังกร) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล 6.ปีมะเส็ง (ปีงู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว สีแดง สีม่วง และสีส้ม 7.ปีมะเมีย (ปีม้า) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเขียว สีเหลืองอมเขียว สีแดง สีม่วง และสีส้ม ขายทาวน์เฮ้าส์ 8.ปีมะแม (ปีแพะ) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล 9. ปีวอก (ปีลิง) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำตาล สีทอง สีเงิน และสีขาว 10.ปีระกา (ปีไก่) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีเหลือง สีน้ำตาล สีทอง สีเงิน และสีขาว 11.ปีจอ (ปีหมา) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีแดง สีม่วง สีส้ม สีเหลือง และสีน้ำตาล 12.ปีกุน (ปีหมู) สีที่ถูกโฉลกในการตกแต่งห้องนอน ได้แก่ สีทอง สีเงิน สีขาว สีฟ้า สีเทา และสีดำ การเลือกสีห้องนอนให้ถูกโฉลกตามวันเกิด 1.สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ แม้ว่าสีแดงเป็นสีที่ถูกโฉลกกับคนเกิดวันอาทิตย์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีที่ถูกโฉลกของผู้ที่เกิดวันนี้ห้ามนำ มาทาสีห้องนอนเป็นอันขาด สำหรับการเลือกสีของห้องนอนนั้นควรเลือกทาสีควันบุหรี่หรือสีขาว แต่ถ้าผนังของบ้านเป็นไม้หรืออิฐ ควรตกแต่งด้วยม่านสีขาว เท่านี้ก็จะช่วยเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ได้แล้ว ทาวน์โฮม 2.สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ ห้องนอนควรใช้สีครีม สีเหลืองอ่อน สีเขียวอ่อน หรือสีขาวปนเข้าไปก็จะช่วยเสริมดวงชะตา และเพิ่มความสวยงามอีกด้วยนะคะ ข้อห้ามสำหรับผู้เกิดวันนี้ ไม่ควรเลือกสีสดๆ อย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่มีความสุข 3. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร ห้องนอนควรเลือกสีเขียวอ่อน สีฟ้าอ่อน หรือสีอ่อนๆ เพื่อแสดงถึงความรู้สึกอ่อนโยน เนื่องจากสีประเภทนี้จะทำให้เกิดความสงบและมีสมาธิ ทำให้สมาชิกในบ้านเกิดความรู้สึกสบายใจ และสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายต่างๆ ออกไปได้ 4. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันพุธ สำหรับผู้ที่เกิดพุธกลางวันต้องเลือกสีฟ้า สีแสด สีขาว สีดำซึ่งสามารถใช้ทาห้องนอนได้ด้วย เชื่อว่าจะเสริมความเป็นสิริมงคลและทำให้ผู้อยู่เกิดความสุข ถ้าเป็นผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืนควรเลือกทาสีชมพู สีเทา สีเขียวอ่อน และสีขาวนวล เพราะเป็นสีที่เสริมดวงชะตาของทุกคนในบ้านได้ 5. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี สีของห้องนอนจะต้องเลือกสีส้มอ่อน สีพีช สีฟ้าอ่อน สีเหลืองครีม และสีขาว เพราะสีเหล่านี้สามารถสร้างความสุขให้แก่ผู้ที่เกิดในวันนี้ได้เป็นอย่างดี 6. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ การเลือกสีให้ห้องนอนควรเลือกสีพีช สีเขียวอ่อน และสีขาว เพราะสีเหล่านี้จะทำให้ผู้ที่เกิดวันศุกร์มีความสุข หากชอบแต่งห้องด้วยผ้าม่านก็ควรเลือกม่านสีฟ้าอ่อน สีเหลืองครีม หรือสีส้มอ่อนๆ จะเสริมดวงชะตาได้ 7. สีห้องนอนสำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ ควรเลือกสีที่เป็นโทนสีอ่อนๆ เช่น สีขาว สีควันบุหรี่ หรือสีเขียวอ่อน และไม่ควรเลือกบ้านสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน แต่ควรเลือกสีเขียวอ่อนๆ จะดีที่สุด สีเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกและห้องต่างๆในบ้าน สำหรับการที่จะเลือกสีเรานั้นไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดขนาดต้องสีนั้นเป๊ะๆ เอาความเหมาะสมหรือความชอบของเราเป็นที่ตั้งแล้วดูสีที่เป็นโทนเดียวกับสีที่ถูกโฉลกก็ได้ ต่อมาเรามาดูกันต่อว่าสีแต่ล่ะสีนั้นมีอิทธิพลอย่างไร จะส่งผลอย่างไรกัน ราคาทาวน์เฮ็าส์ อิทธิพลของสีของในห้องนอน ห้องนอนสีชมพู สีชมพูนั้นก็เป็นสีที่จะช่วยในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เย็นชาและห่างเหิน เป็นสีแห่งการเยียวยาให้ความยากจนหมดไป โดยเฉพาะด้านการเงิน เพื่อการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน ช่วยให้มีความมั่นใจและความสบายใจ หากทาสีห้องนอนสีนี้จะทำให้จิตใจอ่อนโยนและดูมีเสน่ห์ ห้องนอนสีเขียว เป็นสีแห่งการที่จะเจริญเติบโตกันอย่างแข็งแรงดีและ ความมีสุขภาพดี ความเจริญรุ่งเรือง การเริ่มต้นใหม่ ความมีโชค และเป็นสีแห่งความมั่งคั่ง มักใช้เป็นสีดึงดูดกระแสการเงินให้เพิ่มมากขึ้นในชีวิต ห้องนอนสีเขียวทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ห้องนอนสีชมพูอมส้ม เป็นสีที่กระตุ้นเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ ความมีเสน่ห์ทางเพศ แรงดึงดูดเหมาะสำหรับคนโสดที่ต้องการหาคู่ ห้องนอนสีม่วงอ่อน สีม่วงอ่อนๆนั้นก็เป็นสีแห่งการปกป้องแห่งจิตวิญญาณ สีแห่งความสำเร็จ ความปรารถนาและการงานที่ดี ห้องนอนสีครีม สีครีมนั้นก็เป็นสีที่จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่แข็งแรงดี ช่วยในการฟื้นตัวและ ความมั่นคงทางอารมณ์ เหมาะกับห้องนอนผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็กที่มีอารมณ์ที่รุนแรง ห้องนอนสีเทา บ้านทาวน์เฮ้าส์ สีแห่งความสมดุล ความหยั่งรู้ ความสมบูรณ์ ช่วยดึงดูดความฉลาดที่ซ่อนไว้ให้ปรากฏขึ้น ตัวอย่างห้องนอนแต่ละสี

เชื่อกันหรือไมว่า ตอนแรกที่เราได้ เห็นกระทู้นี้จากห้องชายคา ในเว็ปพันทิป ถึงกับอึ้ง เพราะว่าสภาพบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังเดิมเก่าจน คิดว่าจะทำให้ใหม่ได้ยังไงหว่า ? แต่เจ้าของกระทู้สามารถทำได้ แถมยังน่าทึ่งเลยทีเดียว ลองไปดูกันนะครับว่า พวกเขาจะสามารถแปลงบ้านไม้ทาวน์เฮ้าส์ทรุดโทรมราคา 8 แสน ให้กลายสภาพเป็นบ้านไม้ทาวน์โฮมที่ดูหรูหรา เหมือนราคาหลายสิบล้านบาทกันได้อย่างไร นี่ก็เป็นกระทู้แรกของผมในพันทิปเลยน่ะครับ ถ้ามีอะไรไม่ถูกใจต้องบอกกล่าวได้ครับ เริ่มเรื่องราวเลยละกันครับ ผมชื่อว่าวิชัยครับ เป็นคนจังหวัดยะลาแล้วก็ได้ย้ายมาอยู่ที่เชียงรายโดยการหาซื้อที่ดินเปล่าจะสร้างบ้าน แต่ด้วยความที่ว่าที่ดินที่เชียงรายนั้นค่อนข้างแพงมากเลยมองหาบ้านมือ 2จากธนาคาร และผมได้มาเจอบ้านหลังนี้มาจากธนาคารทหารไทย ในราคาทาวน์เฮ้าส์ที่ 813,000 ตอนแรกแทบจะไม่กล้าเข้าเลยเหมือนกันครับ จากสภาพตามรูปที่เห็น รูปข้างบนนี้นั้นเป็นรูปสถานที่จริงนะครับ บ้านทาวน์เฮ้าส์หลังนี้ผมได้สอบถามจากเพื่อนบ้านว่าทำไมถึงรกร้างน่ากลัว เพื่อนบ้านหลังนี้บอกว่า เจ้าของเก่าเป็นหนี้ธนาคารอยู่ค่อนข้างเยอะ และเป็นหนี้นอกระบบอยู่พอสมควร ตอนแรกแอบกลัวว่าเป็นบ้านผีสิงรึเปล่า 555 ตามประสาละครับ ถ้าได้เห็นตอนแรกเลย แต่เพื่อนบ้านบอกเข้าไปดูได้ เพราะไม่มีใครสนใจ แต่ข้างในเป็นไม้อย่างดีทั้งหมดนะครับ ด้วยพอถามจากเพื่อนบ้านดูคร่าวๆ แล้ว ผมจึงถือวิสาสะเขาไปเพราะบ้านไม่ล๊อคอะไรเลยครับ มุดเข้าไปด้านข้าง ซึ่งพอเข้าไปก็จะเจอภาพราวๆ นี้ครับ แต่ในรูปนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นรูปหลังจากที่เก็บกวาดไปหน่อยแล้วนะครับ เพราะจริงๆ แล้ว บ้านรกและขึ้นเป็นป่าเลย บ้านหลังนี้มีเนื้อที่อยู่ราวๆ 1ไร่1งาน 93 ตารางวาครับ ตัวบ้านนั้นเป็นทรงโรงงานครับ เพราะเจ้าของเก่าทำธุรกิจค้าไม้น่ะครับ บ้านทาวน์เฮ้าส์ทั้งหลังจึงเป็นบ้านไม้ซึ่งจะประกอบด้วยบ้านหลังเล็กขนาดกำลังน่ารักเลยครับ ตอนเข้ามาดูยังแอบตกใจกับความสวยของไม้เลยครับ ว่าทำไมถึงเหลือมาได้ถึงผมกัน แล้วบ้านหลังใหญ่ครับ ซึ่งเป็นบ้านทรงค่อนข้างแปลก แต่ในความรู้สึกคือก็สวยดีนะครับ ไม้ทั้งนั้นเลย รูปนี้ขอลงรูปบ้านที่ทำไปซักหน่อยแล้วนะครับ คือรูป จากนั้นตัวกะผมก็ได้เข้ามาดูในตัวบ้านใหญ่ ซึ่งขอบอกเลยว่า ฝุ่นเยอะจริงๆ และค่อนข้างหนาด้วยครับ ซึ่งบ้านหลังใหญ่นี้ก็ประกอบไปด้วยห้องนอน 4 ห้อง ซึ่งเป็นไม้ทั้งหมดครับ เดี่ยวผมค่อยๆ อัพให้ดูที่หลังนะครับ และห้องรับแขก 1 ห้อง ห้องโถง ที่เห็นในรูป และจะมีห้องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งตัวผมไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ เพราะไม่เคยคิดจะเอารูปมาโพสน่ะครับ แต่ละห้องเป็นไม้จริงๆ รวมได้ทั้งหมดรวมบ้านหลังนี้ห้องนอนอยู่ 8 ห้องครับ ทุกอย่างอยู่ในสภาพดีหมด ยกเว้นห้องนอนห้องด้านล่างซึ่งโดนปลวกกินไป 1 ห้องนะครับ พอดูคราวๆ ผมก็ไม่รู้ติดใจอะไรขึ้นมา ไปดำเนินการซื้อบ้านหลังนี้ทันทีเลยครับ ทั้งๆ ที่แม่ของผม ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเพราะแกบอกว่าดูมันน่ากลัวแปลกๆ รูปนี้อีกรูปครับ ด้านภายนอก เริ่มด้วยการรื้อต้นไม้จากภายนอกบ้านหลังนี้เลยครับ ใช้เวลาเยอะมาก เพราะต้องการให้เหลือโครงเก่าๆ ไว้เท่าที่จะทำได้ครับ และจังหวะเดียวกัน จ้างผู้หญิงมาเป็นแรงงานในการล้างพื้นบ้านทั้งหมด ขอบอกเลยว่าหลายวันมากครับ แล้วถ้าตัวเราก้อเข้ามาดูงานในบ้านด้วยครับ ในการทำให้ในรอบแรกนี้ จ้างแรงงานชาย7 แรงงานหญิงอีก5ครับ ซึ่งก้อดีใจในส่วนหนึ่งครับ ลุงป้าน้าอา ที่อยู่ข้างบ้าน มาทำงานในนี่หมดเลยครับ เลยไม่ต้องลำบากหาช่างในรูปที่เห็นคือต้นไม้ภายในรั้วบ้านน่ะครับ ตัดออกไปเยอะแยะมากครับ ต้องการจักบอกให้ทราบว่า มีสัตว์หลายชนิดมากครับที่มาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ที่น่ากลัวสุดคือตุ๊กแกกับงูครับขอบรรยายแยะมาก มาต่อที่งานหน้าบ้านต่อนะครับ เพราะว่าต้องเป็นงานที่ค่อนข้างเร่ง ก็เพราะว่าไม่มีรั้วครับ ข้อเสียของผมคือไม่มีประสบการณ์ในการทำบ้านมาก่อนเลยครับ คิดออกแบบไหนก็ให้ช่างทำแบบนั้น ใช้เวลาคร่าวๆ อยู่ประมาณ 1 เดือนครับกว่าจักเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา อย่างว่าครับ หน้าบ้านก็คือหน้าตาของเรา ผมเลยแก้งานเก่าของเจ้าของบ้านเดิมออก และตกแต่งเพิ่มเติมในส่วนที่ใช้งานได้อย่างเช่นบ่อปลาหน้าบ้านครับ บ่อปลานี้มีอยู่แต่เดิมนะครับ เจ้าของบ้านเก่าทำด้วยไม้ทั้งหมด แต่ผมรื้อออกแล้วลงกระเบื้องนะครับ ลืมเล่าไปนะครับ ไฟฟ้าที่นี่สายไฟภายในหายหมดครับ โดนขโมย ทั้งสายไฟพร้อมทั้งบานประตู พอมาที่หน้าบ้านเริ่มดูดีขึ้นมาครับ ก็ไปก่อสร้างรั้วรอบบ้าน ซึ่งมันล้มอื้อซ่าพอสมควรครับ ก็เพราะว่าเห็นว่าตอนที่ถูกยึดไม่มีใครดูแเลยครับ พอทุกๆอย่างที่ตั้งต้นเข้าที่ ผมก็เริ่มจัดแจงในบ้านครับ รื้อส่วนที่ผุและโดนปลวกกินไปเปลี่ยนไม้ใหม่ ไม่เคยคิดมาก่อนครับ ยากมาก เพราะว่าไม่เคยน่ะครับ แต่ดีนะครับ ช่างพอปรึกษาได้บ้างพร้อมกับค่าจ้างคือรายวัน ตัวนี้ทำไปแบบงงกับตัวเองอ่ะครับ เป็นห้องนอนชั้นล่าง แล้วก็จะมารื้อห้องน้ำซึ่งได้เจ้าของเก่า ทำเป็นห้องเล็กๆ พร้อมด้วยมีห้องอบสมุนไพร แต่เจ้าของกระทู้ตัวใหญ่เข้าไม่ได้เลยต้องดัดแปลงหน่อยครับ มาต่อกันเลยน่ะครับ กับรูปนี้ที่เป็นรูปของบ้านหลังเล็กที่ ช่างรกในรูปช่วงแรกๆ ภายหลังได้เก็บกวาดตกแต่งไปพอสมควร ในบ้านหลังนี้มีห้องใต้ดินอยู่ด้วยครับ แต่เป็นห้องขนาดเล็ก สอบถามจากเพื่อนบ้าน เจ้าของเก่าเอาไว้ใช้ซ่อนแรงงานต่างชาติ พร้อมด้วยผมดูว่ามันน่ากลัวไป ไหนๆ ก็ยังวนเวียนอยูในบ้านหลังเล็ก ขอพาไปดูตัวบ้านเล็กหน่อยเลยละกันครับ ว่าจะน่ากลัวรึน่าอยู่ ลองดูกันนะครับ เป็นบ้าน 2 ระดับน่ะครับ ขายทาวน์เฮ้าส์ แล้วก็ระเบียงบนทางเดินที่เชื่อมไปยังห้องต่างๆ ของชั้นหลัง ในภายหลังที่ทำบ้านชุดนี้เสร็จก็จะพักงานไปได้เกือบครึ่งปี ผมก็เลยว่างๆ จึงเกริ่นจัดบ้านนู่นนี่นั่นตามประสาครับ โหมโรงจากตัวบ้านเลยนะครับ รูปนี้เป็นรูปห้องนอนส่วนตัวของผมเอง เป็นคล้ายๆ ห้องใต้หลังคา ใช้หลอดสีส้มช่วยให้ห้องสีเด่นขึ้นมาครับ ตามด้วยห้องรับแขกครับ รูปที่เห็นไม่ได้ต่อเติมหรือซ่อมแซมนะครับ เพราะในตัวบ้านหลังใหญ่ เมื่อเราเก็บฝุ่นออกหมด ขอบอกครับ ผมนี่โคตรดีใจเลย ตามมาติดๆ ด้วยเคาเตอร์บาร์ใน มุมแบบ ชิวๆ ในบ้าน ที่ล้างฝุ่นออกไป และทางขึ้นชั้น 2 ของบ้านหลังนี้ ทุกๆ อย่างก็ เป็นไม้ล้วนๆ เลยครับ และก็เป็นไม้เนื้อแข็งอย่างดีทั้งหมด ลองพาไปชมห้องน้อยๆที่อยู่ ใต้หลังคาอีก 2 ห้องครับ ห้องนี้เล็กแต่น่านอนครับ หลายท่านก็คงจะยังสงสัย แล้วห้องน้ำภายในบ้านหลังนี้เป็นแบบไหนกัน หลังจากที่ผมรื้อมาทำใหม่ ส่วนนี่เป็นห้องที่ได้ถูกปลวกกินไป แล้วผมทำขึ้นมาใหม่ครับ อย่างที่บอกทำแบบงงๆ เลยเป็นแค่ไม้อัด แล้วก็ต้องมาต่อที่หน้าบ้าน หลังจากที่ซ่อมแซมขึ้นมาเรียบร้อย ถึงคราวตกแต่งบ้างครับ มาต่อกันเลยนะครับกับครึ่งหลัง ผมจะเริ่มจากรูปที่เป็นของเก่าก่อนเลยนะครับ จะได้ไม่งง และแล้วผมก็ได้จังหวะเวลาเปลี่ยนแปลงโดยการรื้อโครงเหล็กออกไปครึ่งหนึ่งของพื้นที่ทั้งหมด หรือที่เห็นทั้งหมดในรูปบนครับ จนเป็นพื้นที่โล่งๆ เพราะส่วนตัวชอบธรรมชาติมากกว่า พอได้รื้อออกมาทั้งหมดก็ตัดกำแพงที่สูงออกจนเหลือความสูงแค่พอประมาณ และเริ่มละเลงความมั่นใจลงบนกำแพงเลยครับ อยากได้กำแพงแบบที่เห็นได้ในระยะไกลที่สุด ต้องบอกกันก่อนนะครับ ว่าสนามหญ้านี่ผมทำ2รอบครับ ผมจะลงรูปรอบแรกและบรรยายก่อนนะครับ รูปบนก็คือบ่อปลาในชุดแรกที่ทำครับ คือ คิดแบบง่ายๆงบน้อยๆ

ทำไมจึงกล่าวว่า บ้านทาวน์เฮ้าส์แบบดินนั้น คือการที่จะนำรูปแบบการก่อสร้างเพื่อโลกใหม่ ทั้งที่ภูมิปัญญานี้ถูกใช้กันต่อมาอย่างยาวนานแล้วนับเป็นพันๆ ปีมาแล้ว นั่นก็อาจเป็นเพราะในปัจจุบัน เรามองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกคอนกรีต ก่ออิฐฉาบปูนและทาสีทับลงไป เป็นแบบบ้านที่ดูซ้ำๆซากๆจำเจและมันยังเป็นตัวการสำคัญที่จะทำลายธรรมชาติ สุขภาพและโลกของเราอย่างสุด พูดง่ายๆ กันก็คือแบบบ้านที่เป็นทาวน์เฮ้าส์ที่เราพักอาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้ ล้วนไม่มีความเป็นธรรมชาติแฝงเร้นอยู่เลย แม้จะพยายามจับเอาความสวยงามของธรรมชาติเข้ามาไว้ก็ตาม แต่มันก็ได้แต่เพียงความโดดเด่นสวยงามที่ช่วยทำให้บ้านอันแข็งทื่อดูมีชีวิตมากขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับบ้านดินแล้ว เสน่ห์ของมันกลับน่าหลงใหลมากกว่าหลายเท่า หากใครได้เคยได้ลองไปสัมผัสกับการพักอาศัย เชื่อว่าผู้คนจะต้องตราตรึงใจกับความรู้สึกราวกับการพักอาศัยอยู่ในโอบกอดของธรรมชาติเลยทีเดียว หอมกรุ่นไอดิน ..มนต์เสน่ห์แห่งกลิ่นที่ไม่มีใครเหมือน กลิ่นไอที่โชยออกมาจากบ้านดิน คือเสน่ห์ที่บ้านทาวน์โฮมคอนกรีตไม่สามารถให้ได้ เราจะสัมผัสได้ถึงห้วงของจิตวิญญาณ การมีชีวิต และศิลปะในการปั้นแต่ง โบกฉาบจนกลายรูปออกมาเป็นบ้านรูปร่างหลากหลายที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในแบบสี่เหลี่ยม หรือแบบหลังคาจั่วเพียงอย่างเดียว เพราะบ้านทาวน์เฮ้าส์ดินก็เหมือนกับการปั้นดินน้ำมัน หากต้องการให้บ้านออกมาแบบไหน ก็เพียงแค่ลงมือทำมัน บรรจงก่อและต่อเติมจนออกมาได้หน้าตาอย่างที่เจ้าของบ้านต้องการ ความสวยงามของบ้านดินเป็นสิ่งที่ยากยิ่งจะสัมผัสได้จากที่อื่นใด ความเป็นธรรมชาติที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบด้าน อีกทั้งลักษณะของบ้านดินทาวน์เฮ้าส์ยังให้ความเย็นสบาย แม้จะอยู่ในหน้าร้อนก็มั่นใจได้ว่าภายในบ้านนั้นจะต้องเย็นชุ่มช่ำทั้งกายและใจ ปลอดโปร่งอยู่ด้วยกลิ่นไอที่ไม่ทำลายสุขภาพ ไร้ซึ่งสารเคมีจากสีทาบ้านก็ ทำให้เราได้เต็มอิ่มทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจอย่างสมบูรณ์แบบ บ้านทาวน์เฮ้าส์ดินจึงไม่ใช่เพียงแค่การเป็นบ้านเท่านั้น เพราะมันคือสวรรค์หลังเล็กๆ ที่ภายนอกดูเรียบง่าย แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอันอบอุ่นและนุ่มนวล บางหลังก็มีการตกแต่งบ้านด้วยแสงไฟสีส้มนวลในยามค่ำ ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความโรแมนติก ให้การพักผ่อนนอนหลับเต็มอิ่มภายใต้หลังคาที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติ จงภูมิใจหากใครๆก็ได้เป็นเจ้าของสวรรค์บนดิน เพราะเมื่อวันใดที่มันเสื่อมสลายก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกไป ต่างจากเมืองคอนกรีตที่เป็นตัวทำลายธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น เมื่อโลกเรากำลังอ่อนหล้าในเวลานี้ บ้านดินก็คงจะเป็นคำตอบที่อยู่ในใจของใครหลายคนสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคที่สดใสมากขึ้น

ห้องเช่าทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่ ที่แล้วดูเล็กจนรู้สึกอึดอัด ครั้นจะหาเช่าห้องหรือบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่ใหญ่กว่านี้ก็สิ้นเปลืองเงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาคลาสสิก ที่ทุกคนต้องเจอ (ยกเว้นคนมีสตางค์) แล้วเราที่มีงบน้อยจะต้องทำอย่างไร ให้ห้องแคบๆ ห้องนี้นั้นดูใหญ่ และกว้างขึ้น ทางเรา ไม่รีรอที่จะหาคำตอบมาให้สำหรับปัญหาง่ายๆ ที่บางคนคิดมาก กับ 15 กฎเหล็ก ที่ทำแล้วรับรองห้องเล็กเท่ารูหนู กลายเป็นห้องพักหรูที่โอ่อ่าน่าอยู่ขึ้นเลยค่ะ   1.เพ้นท์หรือติดวอลเปเปอร์ตรงเพดานห้อง การวาดภาพหรือติดวอลเปเปอร์ที่เพดานห้องจะทำให้ห้องดูสูง และปลอดโปร่งยิ่งขึ้น 2.เลือกใช้สีอ่อนสำหรับผนัง และ พื้นห้อง เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สีอ่อนทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ภาพจาก ideastodecor.com 3. 2 นิ้วก็ช่วยได้ เป็นความเข้าใจผิดเรื่องการดันเฟอร์นิเจอร์ไว้ชิดผนังจะทำให้ห้องใหญ่ขึ้น แต่แท้จริงแล้วควรเว้นระยะระหว่างผนังกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่สักประมาณ 2 นิ้ว เพื่อให้ความรู้สึกของพื้นที่ภายในไม่ถูกจำกัดจนเกินไป 4.เลือกใช้ชั้นซ่อนตัว สำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด การเลือกชั้นวางของควรเลือกแบบที่มีฟังก์ชั่นแบบพับเก็บ หรือซ่อนทับกันได้ เช่นเตียงนอนที่เปิดด้านล่างสามารถเป็นที่เก็บของได้ด้วย 5.แขวนชั้นวางเหนือระดับสายตา หากจำเป็นต้องติดชั้นวางที่ห้อง ให้ติดชั้นวางใกล้เพดาน โดยอยู่ในระดับเหนือสายตา ภาพจาก en.wikipedia.org / target.com 6.ของตกแต่งควรมีขนาดเล็กกว่าผลแคนตาลูป หากคิดจะเลือกของตกแต่งเข้ามาประดับ หรือใช้ภายในห้องขนาดกะทัดรัดของเรา Sanook!Home แนะนำให้พิจารณาเปรียบเทียบกับขนาดของผลแคนตาลูป เพราะหากเฟอร์นิเจอร์มีขนาดใหญ่กว่าผลแคนตาลูป จะทำให้ห้องยิ่งดูแคบลง ดังนั้นให้ยึดกฎของผลแคนตาลูปไว้ปลอดภัยที่สุด 7.ห้องยาวขึ้นด้วยลายทาง หลักการก็เหมือนเราเลือกสวมใส่เสื้อผ้าลายทาง ที่จะทำให้เราดูผอม หรือสูงขึ้น ซึ่งก็นำมาใช้กับห้องได้เช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้ห้องดูยาวขึ้นด้วย 8.ม่านสีใสในห้องน้ำเล็กๆ ในเมื่อห้องพักเราเล็ก ห้องน้ำของเราก็คงเล็กตามไปด้วย ดังนั้นม่านในห้องน้ำควรเลือกแบบสีสว่าง หรือใสๆ เพื่อจะได้ทำให้ห้องน้ำไม่ดูทึบ หรือแคบ ภาพจาก varighty.com 9.ปล่อยหน้าต่างโล่ง หากต้องการให้ห้องกว้างขึ้น โดยไม่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ควรปล่อยหน้าต่างแบบเปิดโล่ง ไม่ต้องติดม่านบังแสง เพราะการติดม่านสำหรับห้องเล็กๆ จะทำให้ห้องยิ่งดูทึบ 10.ภาพติดผนังสื่อความหมาย หาภาพวาดสไตล์ Abstract มาประดับผนังห้องสักภาพ จะทำให้ห้องดูดีขึ้นอีกเยอะ 11. กระจกช่วยได้ อย่างที่ทราบๆ กันว่า กระจกจะช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น   ทาวน์โฮม 12.ใช้พรมให้เป็นประโยชน์ ห้องเล็กๆ หากนำพรมสักผืนมาเป็นตัวแบ่งพื้นที่ให้ดูเหมือนเป็นการแบ่งห้องอีกหนึ่งห้องขึ้นมา ก็จะทำให้ห้องได้รับการแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เพิ่มขึ้น 13.เลือกแต่งห้องด้วยโทนสีเดียวกันแต่คนละเฉด หลักการเลือกสีตกแต่งห้องนั้น ให้เลือกใช้สีเดียว แต่เต็มไปด้วยน้ำหนักที่หลากหลาย ซึ่งหลักการนี้จะทำให้ห้องมีลักษณะโปร่ง โล่งขึ้น 14.เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขา การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมีขาจะทำให้ห้องดูโปร่งมากกว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบไม่มีขา เพราะนั่นมันจะยิ่งทำให้ห้องดูทึบ ภาพจาก lebeanock.com 15. มุมนั่งเล่นไม่จำเป็นต้องเป็นโซฟาเสมอไป เปลี่ยนข้อจำกัดเดิมๆ จากมุมนั่งเล่นที่เป็นโซฟา ทีวี 1 เครื่อง มาเป็นบีนแบค หรือแม้แต่การแขวนชิงช้าไว้แทน ก็ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้อง และไม่ทำให้รู้สึกจำเจ

แม้จะเปิดออฟฟิศบ้านใหม่ของกู เกิล ประเทศไทย ไปได้สักพักแล้ว แต่องค์กรระดับแนวหน้าแบบนี้ ก็ยังมีคนสนใจมุ่งหมายจะที่ไปเยี่ยมชม รวมถึงใฝ่ ฝันว่ามุ่งหมายเข้าไปร่วมงานด้วยเสมอ เช่นเดียวกับคุณอู๋ @ Spin9 ที่มีโอกาสเข้าไปเป็นหนึ่งในแขกคน พิเศษในการเยี่ยมชมออฟฟิศกูเกิล ประเทศไทย พร้อมด้วยได้มาแบ่งปันเรื่องราวระหว่างการเข้าไปภายในออฟฟิศกู เกิล ประเทศไทย เล่าถึงบรรยากาศตั้งแต่ประตูทางเข้า ไปจนถึงมุมต่างๆ ภายในได้อย่างน่าสนใจ ถ้าสนใจไปเยี่ยมกู เกิล ประเทศไทยด้วยกันก็ตามคุณอู๋ไปเลยค่ะ กูเกิล เป็นบริษัทที่ได้รับรางวัลบริษัทที่น่าทำงานอย่างที่สุดในโลกประจำปี 2014 จากนิตยสาร Fortune ซึ่งก่อนหน้านี้กูเกิลเคยติดอยู่ในลิสต์ของรางวัลนี้มาแล้วมากถึง 7 ปี เพราะครองอันดับหนึ่งมากถึง 5 ปีเลยทีเดียว … นอกเหนือจากความเป็นผู้นำทางด้านข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตที่น้อยคนนักจักไม่รู้จักกูเกิลแล้ว อะไรที่ทำให้กู เกิลเป็นบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในโลกกันนะ? วันนี้เป็นโอกาสดีครับ ที่กูเกิลประเทศไทย ได้ทำการเปิดบ้านใหม่ หรือสำนักงานประจำประเทศไทยแห่งใหม่ บนชั้น 14 อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโค่เพล็กซ์ ถ.วิทยุ/เพลินจิต ให้สื่อมวลชนได้เข้าเยี่ยมอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ภายหลังที่ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้ว 3 ปี ซึ่งหลังจากที่ผมได้เยี่ยมชมแล้ว ก็ไม่แปลกใจแน่ๆๆ ว่าทำไม บริษัทนี้ มักจักถูกยกให้เป็นบริษัทลำดับต้นๆ ของโลกที่น่าร่วมงานที่สุด (Best company to work for) ก่อนหน้านี้ ผมเองมีโอกาสที่จะได้ไปเยี่ยมชมทางสำนักงานใหญ่ของกูเกิลที่ Mountain View สหรัฐ อเมริกามาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสำนักงานที่มีความเพียบพร้อมทางด้านสวัสดิการพนักงานสูงมาก มีสิ่งอำนวยความ สะดวกให้กับพนักงานกูเกิล (Googler) อย่างครบพร้อม จนอดที่จักสงสัยไม่ได้ว่า แล้วสำนักงานย่อยๆ ที่มาเปิดตามประเทศต่างๆ อย่างเช่นสำนักงานประจำประเทศไทยที่ผมจักพาไปชมวันนี้ จักมีความเพียบพร้อมที่อยู่ ในระดับเดียวกันไม่ก็ไม่ ระเบียบของการเข้าเยี่ยมชมสำนักงานกูเกิล จักต้องลงทะเบียนเพื่อรับ Badge หรือไม่ก็ป้ายแสดงตัวทุกครั้ง พร้อมทั้งต้องติด Badge ให้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนตลอดเวลาที่อยู่ในสำนักงาน บน Badge จะมี วันที่ มีชื่อนามสกุลของเรา รวมถึงชื่อของ Googler ที่ทำหน้าที่เป็น Host พิมพ์แสดงไว้ เพื่อแสดงให้ เห็นว่า เราเป็น Guest ของ Googler คนไหน นั่นแปลว่า บุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นแขกของ Googler นั้น หมดสิทธิ์ที่จะเข้าเยี่ยมชมสำนักงานกูเกิลครับ (ทั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยทั้งในแง่ทรัพย์สิน พร้อมทั้งข้อมูลของบริษัท) หลังจากลงทะเบียนรับ Badge แล้ว วันนี้เจ้าบ้านอย่างคุณอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ กูเกิลประเทศไทย ก็กล่าวต้อนรับสื่อมวลชนด้วยข้อมูล ที่มาที่ไป กว่าจะมาเป็นกูเกิลประเทศไทยแห่งนี้ โหมโรงจากออฟฟิศเล็กๆ ทำ งานแค่ 2-3 คน จนขยายมาเป็นพนักงานกูเกิลประเทศไทยมากกว่า 50 คนในปัจจุบัน ที่ต้องทำงานร่วมกับ Googler แล้วอีกกว่า 52,000 คนในสำนักงานของกูเกิลกว่า 100 แห่งทั่วโลก รวมถึงคุณอริยะได้พูดถึง คำศัพท์ “Googley” (กู-กลี้) หรือ Googleyness ว่าเป็นลักษณะนิสัยของ Googler ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ขององค์กรจนกลายเป็นศัพท์ที่ใช้เรียกลักษณะการทำงานของคนกูเกิลว่า นี่แหละ คือ การทำงานแบบ Googley Googley เป็นการนิยามรวมๆว่า การที่สื่อถึงวิธีการคิด วิธีการทำงานของคนในองค์กรกูเกิล ที่เน้นทำสิ่งที่ ถูกต้อง (do the right thing) ทำอย่างมั่นใจ (being proactive) มอง เป้าหมายเป็นหลัก (being focused) ทำให้เกินเป้าหมายอยู่เสมอ (go for the extra mile) คิดนอกกรอบ ให้รางวัลกับตัวเอง (ทำงานหนัก ก็ต้องให้รางวัลบ้าง) ให้ความสำคัญกับ กลุ่ม ทำงานอย่างโปร่งใส และมีอารมณ์ขัน (สังเกตได้จากมุกตลก ลูกเล่นต่างๆ ที่กูเกิลแฝงไว้ในผลิตภัณฑ์ของตัว เอง รวมถึงมุก April Fool’s ที่กูเกิลตั้งใจทำกันแบบสุดๆ ทุกปี) เพราะความเป็น Googley ไม่มีกรอบ แต่คนที่อยู่ในวัฒนธรรมองค์กรอย่างกูเกิล ย่อมรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ Googler ควรทำเหรอไม่ควร ทำอยู่เสมอๆ จากนั้น คุณพรทิพย์ กองชุน ไม่ใช่หรือ “พี่อ้อ กูเกิล” (พี่อ้อถึงกับแซวตัวเองบ่อยๆ ว่าพี่อ้อนามสกุล กูเกิล) หัวหน้าฝ่ายการตลาดกูเกิลประเทศไทย ผู้ซึ่งทำงานอยู่กับกูเกิลมานานถึง 9 ปี (นานที่สุดในออฟฟิศของไทยเรา แล้ว) ได้ให้ข้อมูลถึงสิ่งที่กูเกิลยึดถือพร้อมกับปฏิบัติ พร้อมกับเป็นคติพจน์อย่างเป็นทางการของกูเกิลกับคำว่า “Don’t be Evil” ซึ่งถูกเสนอแนะเพราะว่า Paul Buchheit อดีตหัวหน้าพวก พัฒนา Gmail ในปี 2000 พร้อมด้วยคำนี้ถูกใช้ในหนังสือชี้ชวนการลงทุนปางครั้งที่กูเกิลเข้าตลาดหลัก ทรัพย์ (IPO) ในปี 2004 ด้วย ว่ากูเกิลจะทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบผู้ใช้งาน พร้อมทั้งแน่นอน ว่ารวมถึงการไม่เอาเปรียบพนักงานของตัวเองด้วย จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุว่าทำไมกูเกิลถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ รวมถึงสวัสดิการต่างๆ ให้กับพนักงานของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะกูเกิล จักไม่ ‘evil’ กับพนักงาน ของตัวเองเช่นกันครับ พี่อ้อ ก็ยังได้ให้ข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมที่น่าตกใจอีกว่า ปัจจุบัน ฝ่ายกูเกิลประเทศไทยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกูเกิลที่ ได้ปรับมาเข้ากับประเทศไทย (ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย เสียงไทย แผนที่ไทย คำค้นหา ยูทูปไทย) ไปแล้วมากกว่า 100 ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มงานที่แข็งแกร่งของ Googler คนไทย พร้อมกับ Googler จากสำนักงานต่างๆ ทั่วโลก จากนั้น คุณเอมี่ กุลโรจน์ปัญญา หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ อนุภูมิภาคกลุ่มน้ำโขง กูเกิล เอเชียแปซิฟิก ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสำนักงานกูเกิล ประเทศไทย เพราะเริ่มต้นจากบริเวณล็อบบี้ ที่มีความ เป็นไทยสูงมาก โดดเด่นด้วยรถตุ๊กตุ๊ก (คันนี้ของเป็นแน่แท้นะครับ ไม่ได้จำลองขึ้นมา) พร้อมด้วยโลโก้ของกูเกิล ที่ ได้เอาประเทศไทยเข้าไปแทนที่ตัว g ดูแล้วทรงพลังอย่างมาก พร้อมทั้งย้ำถึงความเป็น “กูเกิลประเทศไทย” ได้แบบไม่ต้องใช้คำบรรยายใดๆ ด้านข้างเป็นจอมอนิเตอร์ที่แสดงคำค้นในไทยแบบสดๆ ว่าทันทีคนไทยกำลังค้น หาคำว่าอะไรกันอยู่บ้าง (เครื่องมือนี้ชื่อว่า Google Trends) ซึ่งคำค้นในไทยช่วงนี้ ก็คาดคะเนนี้ แหละครับ.. ผนังของในบ้านใหม่พร้อมอยู่ด้าน หนึ่ง เป็นภาพวาดผลงานของ Candace Rose Rardon ศิลปินนักวาดภาพเจ้าของรางวัลเชิง ท่องเที่ยว วาดภาพวิถีชีวิตคนไทยในภาคต่างๆ ที่ผสมผสานเอาเทคโนโลยีเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างกลม กลืน และมีอารมณ์ขัน (เช่นรูปเด็กขี่ควาย พร้อมด้วยดูวิดีโอบนแท็บเล็ตไปด้วย) เป็นต้น ห้องประชุมในสำนักงานแห่งนี้ มีชื่อห้องเป็นชื่อไทยทั้งหมด เช่นห้องรัตนโกสินทร์, ห้องทองหล่อ ฯลฯ เพราะใช้ เทคโนโลยีของกูเกิลในการทำ video conference เชื่อมต่อกับสำนักงานกูเกิลแห่งอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด (กูเกิลไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพในห้องประชุม เลยไม่มีรูปประกอบนะครับ) มีห้อง ประชุมหลายขนาด รองรับการประชุมได้หลายระดับ โครงการบ้านใหม่ โต๊ะทำงานของสำนักงานนี้ จะได้เป็นแบบ Open กันทั้งหมด ไม่มีใครมีห้องทำงานส่วนตัว แม้แต่คุณอริยะ หรือ ว่าพี่อ้อเอง ก็นั่งทำงานในพื้นที่เปิดร่วมกับ Googler คนอื่นๆ โต๊ะทำงานจะแบ่งเป็น โต๊ะทำงานของ พนักงานประจำ กับโซนที่เป็นโต๊ะทำงาน Hot Desk เพราะด้วยรองรับ Googler จากประเทศอื่น ก็ เป็นได้เอาคอมพิวเตอร์ของตัวเองมาเสียบกับโต๊ะ Hot Desk ที่นี่เพื่อนั่งทำงานได้เลยทันที เพราะ Badge ของพนักงานกูเกิลทุกคน สามารถใช้เข้าสำนักงานของกูเกิลได้ทุกแห่งทั่วโลกครับ บ้านใหม่ราคาถูก โซนพักผ่อน เป็นอะไรที่คนออฟฟิศน่าจะอิจที่บังตาูเกิลมากที่สุดเลยครับ การทำงานที่เคร่งเครียด ก็ต้องมีการ ผ่อนคลาย เปิดม่านบังตาจากสิ่งที่แสดงถึงความเป็นไทยที่สุดก็คือมีมุมนวดแผนไทย (อย่างแท้จังนะครับ) และเป็น มุมที่ได้รับความนิยมอย่างมากด้วย ซึ่งครันๆ แล้วมุมนวดแผนไทยนี่มีอยู่ในสำนักงานใหญ่ของกูเกิลที่ Mountain View ด้วยครับ ใช้หมอนวดคนไทยนี่แหละ เข้าไปให้บริการ Googler ถึงที่โน่นเลย มุมเพื่อนั่งพักผ่อนหรือทาง โซฟา บีนแบ็ก อุปกรณ์ความบันเทิง อย่างเครื่องเล่นเกม โต๊ะพูล ก็มีให้บริการกับ พนักงานชนิดจัดเต็มครับ หรือไม่ก็คนที่ชอบออกกำลังกาย ก็มีลู่วิ่งอยู่ในออฟฟิศเลยด้วย ทั้งหมดนี้ ไม่มีกำหนด เวลาครับ จะมาใช้กี่โมงก็ได้ จักใช้นานแค่ไหนก็ได้ ซึ่ง Googler แต่ละคนต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง เรียกว่า เวลางานเป็นงาน เวลาพักเป็นพัก ของกินบ้างครับ จักมีทั้งหมดสองส่วน คือส่วนที่เป็นครัวเล็กๆ หรือว่าที่กูเกิลเรียกว่า Micro Kitchen โซนนี้จะเหมือนกับเป็นบาร์ ที่มีขนมนมเนย เครื่องดื่มร้อนเย็นต่างๆ ให้พนักงานเดินมาหยิบได้ฟรีๆ แบบไม่อั้น (ส่วน ใครถามว่าหยิบกลับบ้านได้มั้ย ก็ตอบว่าได้ครับ แต่ไม่ใช่ลักษณะนิสัย Googley) กับอีกส่วนหนึ่งคือห้อง อาหาร ที่มีอาหารเช้า กลางวัน เย็น บริการแบบฟรีๆ เช่นกัน เพราะแต่ละวันจะมีเมนูที่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งมีเมนูให้เระบือกหลากหลายด้วย โซนนี้จะมีโต๊ะอาหารให้นั่งเป็นสัด ส่วนเลย พร้อมด้วยถ้าเป็นช่วงบ่ายไปแล้ว ก็จักบริการเป็น Afternoon Tea ขนมนมเนยแบบเบาๆ โดยทั้งสองส่วนนี้ แขกที่มาเยือน (มี Badge ของ Google Guest) ทำได้ใช้บริการได้ฟรีเช่นกัน บริษัทที่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานกันเป็นหลักแบบนี้ ก็ต้องเผชิญกับปัญหาด้านเทคนิคของเครื่องไม้เครื่อง มือในการทำงานบ้างครับ เช่นคีย์บอร์ดเสีย สายชาร์จไม่แค่พอ เหรอ คอมพิวเตอร์มีปัญหาต่างๆ ทางกูเกิลก็เตรียม แก้ปัญหาไว้ด้วยมุมที่เรียกว่า Tech Stop ด้วยเบิกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปทดแทนตัวที่ชำรุด หรือว่าแม้ กระทั่งซ่อมพร้อมทั้งตอบปัญหาทางเทคนิคให้กับพนักงาน ส่วนนี้ก็ให้บริการฟรีเพราะด้วย Googler เช่น กัน (ถ้าใครคิดว่านี่โขแล้ว ที่สำนักงานใหญ่ Mountain View นี่หนักกว่าอีกมากครับ ไม่ว่าจักซัก ผ้าฟรี ตัดผมฟรี ซ่อมรถให้ ฯลฯ) เรียกได้ว่าส่วนไหนที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับพนักงาน ให้สามารถทำ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กูเกิลจัดไว้ให้ครบพร้อมทุกอย่างเลย สวัสดิการต่างๆ ว่าเกือบจะทั้งหมดที่ว่ามา อาจจะไม่เท่าพอต่อการที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งจักขึ้นแท่นเป็น The Best Company to Work for ได้หรอกครับ แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็น วัฒนธรรมองค์กรของกูเกิล ทั้งโอกาสในการร่วมงานกับคนเก่งๆ ความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด โอกาสในการก้าวหน้าใน อาชีพการงาน ความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก ด้วย กันปัจจัยเล็กน้อยอีกหลายอย่างมากกว่า ที่ทำให้ Google เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผู้ใคร่เข้ามาร่วมงานมากที่ สุดในโลก สมคำร่ำฟุ้งเฟื่องที่กูเกิลได้รับรางวัลนี้จากสื่อหลายสำนักอย่างไม่แปลกใจ หลังจากได้เดินดู พร้อมด้วยมีโอกาสได้พูดคุยกับ Googler หลายคนที่รอบหลายปีที่พ้นมา ผมเชื่อว่ากูเกิล จะเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งได้อย่างยั่งยืนมาก มีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน กับมีศักยภาพที่จะ สร้างผลิตภัณฑ์เจ๋งๆ ออกมาให้เราได้เห็นกันอีกหลากหลายอย่างต่อจากนี้ไปครับ ขอแสดงความยินดีกับกูเกิล ประเทศไทย ในโอกาสที่ได้บ้านใหม่อย่างสวยงามวันนี้ด้วยนะครับ ซื้อบ้านใหม่

บ้านเดี่ยว : “บ้านเดี่ยวบนรถบัส” แบบบ้านเดี่ยวใน แบบ ECO ที่ประหยัดพลังงาน มาชม ไอเดียต่างๆที่ดีๆ ของบ้านเดี่ยวบนรถบัส ในแบบบ้านเดี่ยวใหม่ ECO ประหยัดพลังงาน มีการติดแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา บ้านเดี่ยวรถบัส หลังนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง นอกจากบ้านเดี่ยวจะโดดเด่นสวยงามแปลกตา จากการนำซื้อบ้านเดี่ยวรถบัสคันเล็กมาดัดแปลงแล้ว การตกแต่งบ้านเดี่ยวรถบัสหลัง(คัน)นี้ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว นอกบ้านเดี่ยวมีระเบียงไม้พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ ให้ได้รับลมชมวิว มีการตกแต่งสวนดอกไม้เล็กๆ รอบๆ บ้านด้วย อ่านต่อ บ้านเดี่ยว: เรามาทำความรู้จักรูปทรงหลังคาบ้านเดี่ยวแบบต่างๆ กันดีกว่า เรามาทำความรู้มารู้จักรูปทรงหลังคาบ้านเดี่ยวแบบต่างๆ กันดีกว่า เลือกหลังคาก็เหมือนการเลือกเครื่องประดับชิ้นสำคัญให้กับการตกแต่งบ้านเดี่ยวใหม่ ของเราควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของบ้านเดี่ยวใหม่ สภาพแวดล้อม อากาศต่างๆ เจ้าของบ้านหลายคนก็มีความรู้ แต่กับอีกหลายๆ คนยังไม่เคยนั่งพิจารณาเรื่องหลังคาบ้านเดี่ยวเลยว่า หลังคาบ้านเดี่ยวนั้นมีรูปแบบใดบ้าง ว่าแล้วมาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า อ่านต่อ บ้านเดี่ยว : มารีวิวการบิลท์อินบ้านเดี่ยว และ การตกแต่งบ้านเดี่ยวสองชั้น ให้ดูสวยงาม แล้วใช้งานได้ หลายครอบครัวมีบ้านเดี่ยวใหม่แต่ก็ยังไม่มีไอเดียในการตกแต่งบ้านเดี่ยว ทาง Sanook! Home เลยได้นำไอเดียการตกแต่งบ้านเดี่ยวแบบบิลท์อินของคุณ riliza ห้องชายคาแห่งเว็บไซต์ดังอย่างพันทิป ดอทคอมมาแชร์ให้ลูกๆบ้านของ Sanook! Home เก็บเอาไว้เป็นไอเดียดีๆ โดยคุณ riliza ได้เล่าถึงขั้นตอนการออกแบบตกแต่งบ้านเดี่ยวของเธอไว้อย่างละเอียด พร้อมแล้วตามไปดูไอเดียและบ้านน่ารักๆ ของเธอกันเลยค่ะ

ชมไอเดียดีๆ ของบ้านเดี่ยวรถบัส แบบบ้านเดี่ยวใหม่ ECO ประหยัดพลังงาน มีการติดแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา บ้านเดี่ยวรถบัส หลังนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง นอกจากบ้านเดี่ยวจะโดดเด่นสวยงามแปลกตา จากการนำรถบัสคันเล็กมาดัดแปลงแล้ว การตกแต่งบ้านเดี่ยวรถบัสหลัง(คัน)นี้ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว นอกบ้านเดี่ยวมีระเบียงไม้พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ ให้ได้รับลมชมวิว มีการตกแต่งสวนดอกไม้เล็กๆ รอบๆ บ้านเดี่ยว การตกแต่งภายในของ บ้านเดี่ยวรถบัส บ้านเดี่ยวหลังเล็กๆ ประหยัดพลังงานหลังนี้ ก็ดูสวยงาม เรียบง่าย จัดสรรพื้นที่ได้อย่างลงตัวในพื้นที่ที่จำกัด เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน จะทำครัว ทำอาหารก็มีให้พร้อม จะนอน จะนั่งเล่นก็สะดวกสบาย บรรยากาศบ้านรถบัสหลังนี้เหมือนอยู่ในบ้านเดี่ยวไม้ทั่วไปเลยก็ว่าได้ ปล.บ้านเดี่ยวรถบัสหลังนี้ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เป็นบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศแบบสงบๆ ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศธรรมชาติรอบบ้าน ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก majesticbus สนับสนุนข้อมูลและภาพจาก baanstyle

ทาวน์เฮ้าส์ ถ้าใครก็ตามที่มีความต้องการหรือมีจำเป็นต้องเขยิบไปอยู่ข้างนอก บ้าน หรือไม่ก็ไปพักอาศัยในสถานที่ใหม่ ที่ไม่ใช่บ้านทาวเฮ้าส์ ของตัวเอง กับในบางครั้งสถานที่นั้นๆ อาจไม่สะดวกสบาย มุมไม่ก็บรรยากาศต่างๆ แตกต่างไปจากบ้านทาวน์โฮม ที่ตัวเองอยู่ จึงทำให้เกิดอาการ Home Sick หรือไม่อารมณ์คิดถึง บ้านเดี่ยว อยู่บ่อยๆ การแก้ไขปัญหานั้นได้ไม่ค่อยยากเลยสักนิด เพราะว่าเราสร้างบรรยากาศในสถานที่ใหม่ๆ ให้มีอารมณ์เหมือนอยู่ “บ้าน” ได้ไม่ยาก เช่นเคยจ้า Sanook! Home รวบรวมนานาเทคนิคของการสร้างบรรยากาศให้เหมือนบ้าน มาฝากให้กับคนติดบ้าน ไปกันเลยค่ะ Heidi Lau Photography / Via jacquelynclark.com 1.จัดการเรื่องที่นอน : เชื่อไม่ก็ไม่ว่าการที่แค่แค่คุณจัดการตัวเบาะนอนอยู่บนเตียง หรือว่าแท่นที่นอน มันจักทำให้บรรยากาศของห้องนอนดีขึ้น แตกต่างจากการวางเบาะนอนไว้บนพื้นแค่อย่างเดียว 2. ทำความสะอาดห้องใหม่ : แน่นอนว่าเจ้าของบ้านทาวน์เฮ้าส์ ไม่ก็ผู้เช่าคนเดิมอาจจักทำความสะอาดห้องไว้ให้ก่อนที่คุณจะเข้าไปเช่าเป็นคนรองลงไป แต่ถ้าจักให้ดี คุณควรทำความสะอาดห้องอีกครั้ง ปัดฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ 3. จัดห้องน้ำ : การเติมของใช้ต่างๆ เข้าไปในห้องน้ำ เช่นม่านกั้นห้องอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว สบู่ล้างมือ เจลอาบน้ำ แชมพู หรือไม่ก็แม้แต่แผ่นยางกันลื่น จักทำให้ห้องน้ำดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น Ashley Poskin / Via apartmenttherapy.com 4. จัดมุมเสียงเพลง : การเพิ่มเสียงเพลงเข้าไปภายในห้องเช่า จักทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ภายในบ้านของตัวเอง 5. ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ต : ยุคกาลสมัยนี้ใครๆ ก็ผูกติดอยู่กับโลกออนไลน์ การที่คุณขนส่งออกจากบ้านเพื่อมาเช่าห้องอยู่ข้างนอก พร้อมทั้งแม้คุณจำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ต คุณก็ควรจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตไว้ภายในห้องพักของคุณเช่นกัน adventures-in-making.com 6. แสงสว่างจากแสงเทียน : แสงสว่างจากเทียน หรือไม่แม้แต่กลิ่นหอมจากเทียนหอม จักทำให้ให้คุณนึกถึงสถานที่ที่คุณเคยจากมาเป็นสถานที่สุดท้าย 7. ไปช้อปปิ้งพร้อมด้วยซื้อของ : ออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ แล้วซื้อของกิน ของใช้ต่างๆ มาเก็บไว้ในตู้เก็บของ หรือไม่ตู้เย็น จะทำให้ห้องเช่าของคุณดูเป็นบ้านมากกว่า การ ปลดปล่อยให้ตู้เหล่านั้นโล่งว่าง 8.เดินเล่นไปรอบๆ ที่พักอาศัย : การเดินสำรวจพื้นที่เพราะรอบที่พักอาศัย จักทำให้เราได้รู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่พักอาศัย รวมทั้งยังอาจได้เห็นว่ามีร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ อยู่ตรงไหนบ้าง 9. ติดผ้าม่าน : จากหน้าต่างโล่งๆ ที่ไม่มีม่านกั้น การติดผ้าม่านจะทำให้ห้องดูอบอุ่น กับน่าอยู่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งสมมติว่ามีเพื่อนๆ ไม่ก็ใครมาเยี่ยมที่ห้อง ห้องที่มีผ้าม่าน จะให้ความรู้สึกถึงความพร้อมในการต้อนรับแขกอยู่เสมอ 10. เเลื่องกห้องสักห้องให้เป็นมุมอบอุ่นเพราะว่าคุณ : ลองหามุมไม่ใช่หรือห้องสักห้อง แล้วจัดให้ห้องๆ นั้นมีบรรยากาศที่อบอุ่น ด้วยการเติมหมอน กับผ้าห่มเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่ก็ถ้าหากไม่มีห้องให้เเอิกเกริกก ก็ใช้ห้องนอนเป็นมุมอบอุ่นที่สุดเหตุด้วยคุณก็ได้ 11. ตกแต่งห้องร่วมกันสมมตคุณมี รูมเมท : ต่างว่าต้องเคลื่อนเข้าไปอยู่ร่วมกับรูมเมท การได้ร่วมกันตกแต่งห้องด้วยกันจักทำให้ห้องมีบรรยากาศของการพักอาศัยร่วมกันมากกว่าการเป็นห้องของใครคนใดคนหนึ่ง thecreativityexchange.com 12. แขวนประดับภาพ : การนำภาพถ่าย ใช่ไหม ผลงานศิลปะมาประดับห้อง จักทำให้ห้องนั้นมีบรรยากาศเหมือนบ้านมากกว่าการ ยอมผนังห้องไว้แบบโล่งๆ 13. จัดโต๊ะอาหาร : การจัดโต๊ะขึ้นมาในห้องจะทำให้ห้องน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าคุณไม่มีโต๊ะรับประทานอาหาร กล่องกระดาษแพคของที่คุณใช้ตอนขนย้ายบ้านก็รอบรู้นำมาจัดวางเป็นโต๊ะรับประทานอาหารดีๆ ได้เช่นกัน 14. ทาสีผนัง : ต่างว่าคุณได้รับอนุญาตให้ทาสีห้องจากเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของห้อง คุณก็ลงมือทาสีห้องใหม่ได้เลย etsy.com 15. ติดวอลเปเปอร์ : แต่แม้คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ทาสีห้อง อาจเเอิกเกริกกติดวอลเปเปอร์แบบลอกได้แทนก็ได้ 16. แนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้าน : คงจักดีกว่า ถ้าหากคุณสร้างมิตรมากกว่าศัตรู ดังนั้นการแนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้าน หรือว่าห้องติดๆ กันน่าจะดีกว่า เพราะว่าต่างว่ามีเหตุให้ต้องพึ่งพาอาศัยกันจักได้ไม่กระดากใจ 17. จัดมุมหนังสือ : ถ้าหากตอนคุณเลื่อนออกมา มีหนังสืออยู่ในกล่องมากมายก่ายกองแยะ ให้คุณแกะหนังสือเหล่านั้นออกมาแล้วมาจัดใส่ชั้นวางหนังสือ เวลาคุณอยู่ที่ห้อง สมมุติได้หนังสือดีๆ สักหนึ่งเล่มพร้อมนั่งจิบกาแฟไปด้วย นั่นถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในที่พักอาศัย 18. เติมสีเขียวให้ห้อง : แน่นอนว่าการปลูกต้นไม้ไว้ในที่พักอาศัย จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบ้าน ดังนั้นคุณอาจเลือเลื่องกปลูกต้นไม้ชนิดที่ปลูกในร่มได้ หรือปลูกไม้อวบน้ำ ที่ดูแลง่ายแทนก็ได้ 19. วางแผนต้อนรับแขก : คุณควรวางแผนต้อนรับแขกอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อเติมสีสันให้กับชีวิต ก็เพราะว่าบางครั้งการเขยิบจากที่พักเดิมมายังสถานที่ใหม่ๆ อาจทำให้คุณยังไม่มีเพื่อนมากนัก ใช่ไหมถ้าหากเริ่มต้นรู้จักเพื่อนบ้านมากขึ้นแล้ว จะเชิญเพื่อนบ้านมานั่งคุยหรือไม่รับประทานอาหารร่วมกันก็ได้ https://Thinkstock.com 20. หาที่พักให้สัตว์เลี้ยง : หากที่ๆ คุณนั้นได้ย้ายไปอยู่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ คุณควรหาที่นอน และจัดเตรียมของใช้สำหรับมันให้เรียบร้อย รวมถึงถ้าเป็นสุนัขคุณต้องพามันไปเดินเล่นบ้าง

บ้านเดี่ยว: ตกแต่งบ้านเดี่ยวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์สังคมคนเมือง หากชีวิตสมัยใหม่คือการสนุกกับงานได้ทุกที่ การแบ่งสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งในห้องนอนให้เป็นพื้นที่ทำงาน หรือเป็นห้องทำงานเลยก็คงเป็นเรื่องไม่ยากนักโดยเฉพาะในทาวน์เฮ้าส์ดีไซน์ใหม่ที่ตอบรับความต้องการของไลฟ์สไตล์คนเมือง ซึ่งออกแบบเพื่อให้มีพื้นที่ทำงาน พื้นที่ที่ใช้งานอเนกประสงค์และห้องเก็บของได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับพื้นที่จำกัด การแบ่งพื้นที่บางส่วนภายในห้องนอนให้เป็นมุมทำงานก็ทำได้ โดยอาจจัดเป็นมุมเล็กๆ วางเก้าอี้สักตัว หรือจะนั่งกับพื้นและเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินดีไซน์เรียบโก้ เน้นสีโทนอ่อนอย่างสีขาวหรือสีครีมสว่างๆ ก็จะทำให้ห้องนอนดูโปร่ง มุมทำงานก็ดูเรียบร้อยสะอาดตา ไม่ต้องห่วงว่าจะรู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ส่วนใครที่บ้านมีพื้นที่ใช้สอยมากพอและจำเป็นต้องเก็บตำรับตำราเป็นตั้งๆ การจัดสรรพื้นที่ให้เป็นห้องทำงานอย่างจริงจังให้เป็นสัดส่วนก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ควรทำ เพราะช่วยให้การจัดระเบียบและคุณภาพชีวิตในการนอนสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งห้องทำงานนั้นก็ควรใช้ชั้นวางหนังสือและวางของเป็นแบบบิวท์อิน เพราะดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและแข็งแรงทนทาน และเลือกโซฟาเบดตัวกลมที่นั่งสบาย และในขณะเดียวกันหากคืนไหนต้องทำงานดึกก็สามารถหลับปุ๋ยได้ทันที

มารู้จักรูปทรงหลังคาบ้านเดี่ยวแบบต่างๆ กันดีกว่า เลือกหลังคาก็เหมือนการเลือกเครื่องประดับชิ้นสำคัญให้กับการตกแต่งบ้านเดี่ยวใหม่ ของเราควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของบ้านเดี่ยวใหม่ สภาพแวดล้อม อากาศต่างๆ เจ้าของบ้านหลายคนก็มีความรู้ แต่กับอีกหลายๆ คนยังไม่เคยนั่งพิจารณาเรื่องหลังคาบ้านเดี่ยวเลยว่า หลังคาบ้านเดี่ยวนั้นมีรูปแบบใดบ้าง ว่าแล้วมาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ

1.ทรงจั่ว หลังคาฝ่ายนี้จักมีปัญสมมตารรั่วซึมน้อยมาก เนื่องมาจากมุมองศาที่มีความลาดเอียง ตราบใดฝนตก จักทำให้น้ำไหลสู่ด้านล่างได้อย่างรวดเร็ว ลดการแตกหักของวัสดุมุงหลังคาจากลม ฝน ลูกเห็บ ไม่ใช่หรือกิ่งไม้ต่างๆ สมมุติมีการรั่วซึมก็มักไม่สร้างปัญหามากนัก แต่มีข้อเสียคือถ้าหากทิศทางของฝนสาดเข้าจั่วบ้าน อาจทำให้มีน้ำซึมเข้าบ้านได้ ทางแก้คืออาจต้องติดตั้งกันสาด หรือชายคาบ้าน
2.ทรงปั้นหยา หลังคาทรงนี้จะมีมุมลาดเอียงน้อยกว่าแบบจั่ว ลักษณะของหลังคาจะครอบคลุมทุกทิศทางของบ้าน เพราะส่วนบนสุดของหลังคาจะเป็นจุดยอดรวมของแต่ละด้าน หลังคาทรงนี้เชี่ยวชาญกันแดดกันฝนได้ทุกด้าน สวยงาม ทนต่อการปะทะของแรงลมได้ดี

3.ทรงปีกผีเสื้อ เป็นโครงหลังคาที่แหงนออกทั้งสองด้าน เพราะด้านนอกเป็นมุมสูง ตรงกลางจักเป็นมุมต่ำ ลักษณะคล้ายผีเสื้อกระพือปีกบิน ส่วนตรงกลางมักทำเป็นรางน้ำ อาจให้เอนมาด้านใดด้านหนึ่ง เป็นหลังคาที่สมรรถรองรับน้ำฝนได้ดีกว่าหลังคาแบบอื่น รวมถึงให้ความเป็นโมเดิร์น ทันคราว

4.ทรงเพิงหมาแหงน เป็นหลังคาที่มีลักษณะแบนราบแต่ลาดเอียงโดยยกด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง กับมีเชิงชายรอบตัวบ้าน เพราะว่าอาจจะออกแบบให้ด้านหน้ามีเชิงชายยื่นออกมามากกว่าด้านอื่นๆ เล็กน้อยเพื่อให้บังแดดด้านหน้าบ้านได้ดี พร้อมกับการทำลาดเอียงจักช่วยระบายน้ำฝนได้เร็วอีกด้วย เพราะทั่วไปเราอาจจักพบเห็นหลังคาเพิงหมาแหงนในบ้านที่มีรูปทรงแบบโมเดิร์น

5.ทรงโค้งกลม จากหลังคาทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นลักษณะของหลังคาที่ต้องใช้ร่วมกับกระเบื้องระดับต่างๆ แต่เพื่อหลังคากลม แน่นอนว่าไม่เก่งใช้กระเบื้องได้ แต่ต้องใช้โลหะรีดลอน ไม่ใช่หรือวัสดุสังเคราะห์จากไฟเบอร์กลาสหุ้ม ซึ่งถ้าถ้าหากโครงสร้างมีรัศมีน้อยกว่าค่ามาตรฐานของผู้ผลิต อาจทำให้เกิดการซ้อนทับกันของแผ่นหลังคาไม่แนบสนิท ด้วยกันน้ำรั่วซึมได้

6.ทรงแบน เป็นทรงยอดนิยมเหตุด้วยบ้านระยะเวลาใหม่ บางคนอาจเรียกว่า บ้านไม่มีหลังคา ไม่ก็บ้านหลังคาเปลือกระฉ่อนย พื้นที่หลังคาจึงเป็นที่รับน้ำฝนโดยตรง ควรมีการป้องกันการรั่วซึมที่ดี เช่น ในระหว่างการเทปูนในช่วงก่อสร้างควรปรับระดับความชันของหลังคาให้ดีไม่มีส่วนน้ำขังด้วยกันผสมน้ำยากันซึมในคอนกรีต หรือว่าเสริมแผ่นกันซึมบนผิวคอนกรีต เป็นต้น